สูตรเยลลี่บลูเบอร์รี่ง่ายๆ 10 อันดับแรกสำหรับฤดูหนาว

เยลลี่บลูเบอร์รี่สำหรับฤดูหนาวไม่เพียงแต่สวยงามเท่านั้น แต่ยังอร่อยอย่างไม่น่าเชื่ออีกด้วย บลูเบอร์รี่เป็นแหล่งสะสมวิตามินและสารอาหารที่จำเป็นต่อการทำงานของร่างกาย มีประโยชน์ต่อการมองเห็นและใช้เป็นมาตรการป้องกันโรคมะเร็ง

ผลิตภัณฑ์นี้สามารถรับประทานดิบๆ หรือนำไปใช้เตรียมอาหารต่างๆ สำหรับฤดูหนาวได้

จุดเด่นของการทำเยลลี่บลูเบอร์รี่

เคล็ดลับการทำเยลลี่บลูเบอร์รี่:

  1. บลูเบอร์รี่นิ่มมาก ดังนั้นจึงควรเก็บเกี่ยวในช่วงอากาศแห้ง ที่สำคัญคืออย่าปล่อยให้บลูเบอร์รี่สุกเกินไป เพราะจะทำให้เก็บเกี่ยวยากขึ้น
  2. การเก็บเกี่ยวและการคัดแยกจะต้องสวมถุงมือ เนื่องจากน้ำบลูเบอร์รี่จะทำให้ทุกสิ่งที่สัมผัสเปื้อน
  3. ผลเบอร์รี่จะต้องล้างในกระชอน
  4. การอบด้วยความร้อนเพียงระยะสั้นจะช่วยรักษาคุณค่าสารอาหารไว้ได้สูงสุด

เยลลี่บลูเบอร์รี่ในขวด

วิธีเลือกบลูเบอร์รี่ก่อนเริ่มกระบวนการ

การเก็บบลูเบอร์รี่เองในป่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด วิธีนี้จะทำให้คุณมั่นใจได้ว่าบลูเบอร์รี่สดและปลอดรังสี

เมื่อซื้อผลเบอร์รี่ที่ตลาด สิ่งสำคัญคือต้องถามผู้ขายว่าเก็บผลเบอร์รี่มาจากที่ไหน หรือทดสอบผลเบอร์รี่ด้วยเครื่องวัดปริมาณรังสี

เมื่อเตรียมแยม สิ่งสำคัญคือต้องเลือกเบอร์รีที่สดและสุก หากเบอร์รีสุกเกินไป เบอร์รีจะแตกในมือและกลายเป็นก้อนเละๆ

บลูเบอร์รี่ล้างแล้ว

วิธีทำเยลลี่บลูเบอร์รี่ที่บ้าน

มีสูตรทำเยลลี่จากเบอร์รี่ชนิดนี้มากมาย มีการเติมสารปรุงแต่งเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มรสชาติ

สูตรอาหารง่ายๆ สำหรับหน้าหนาว

แม้แต่เด็กวัยรุ่นก็สามารถทำเยลลี่ได้ด้วยสูตรนี้

วัตถุดิบ:

  • เบอร์รี่ – 2.5 ถ้วย;
  • น้ำ – 1.5 ถ้วย;
  • น้ำตาล – 3 ถ้วย

วิธีการเตรียม:

  1. แยกบลูเบอร์รี่โดยตัดใบ ราก และผลที่เน่าออก ล้างในกระชอน
  2. เทน้ำลงในหม้อแล้วต้มให้เดือด เมื่อน้ำเดือดแล้ว ใส่เบอร์รี่ที่เตรียมไว้ลงไป
  3. หลังจากเดือดแล้วใส่น้ำตาลลงไปแล้วคนให้เข้ากัน
  4. ต้มไฟอ่อนประมาณ 20 นาที ตักฟองออก
  5. ใส่บลูเบอร์รี่ลงในขวดที่ผ่านการฆ่าเชื้อแล้วและปิดผนึก
  6. ขนมจะมีลักษณะเป็นของเหลว แต่เมื่อเย็นลงก็จะกลายเป็นเหมือนเยลลี่

เยลลี่บลูเบอร์รี่บนกระดาน

ด้วยเจลาติน

วัตถุดิบ:

  • บลูเบอร์รี่ – 250 กรัม;
  • เจลาติน 5 แผ่น;
  • น้ำตาล – ตามชอบ;
  • น้ำ – 1 แก้ว

การตระเตรียม:

  1. แยกผลเบอร์รี่แล้วล้างออกใต้น้ำไหล
  2. ใส่น้ำลงในหม้อก้นหนา แล้วใส่เบอร์รี่ลงไป ต้มจนเบอร์รี่แตกตัวและปล่อยน้ำออกมา เติมน้ำตาลลงไปแล้วต้มต่อ
  3. ตักส่วนผสมจำนวนเล็กน้อยใส่ถ้วย ทิ้งไว้ให้เย็นแล้วละลายเจลาติน
  4. หากต้องการละลายหมดให้นำไปอุ่นในอ่างน้ำ
  5. ผสมส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกันแล้วนำไปต้มจนเดือด
  6. เทใส่ขวดที่เตรียมไว้แล้วม้วนขึ้น

บลูเบอร์รี่ในเครื่องปั่น

ไม่มีเจลาติน

สินค้า:

  • บลูเบอร์รี่ – 3 กิโลกรัม;
  • น้ำตาล – 2.5 กิโลกรัม.

การตระเตรียม:

  1. ใส่เบอร์รี่ที่เตรียมไว้ลงในภาชนะ เติมน้ำตาลหนึ่งกิโลกรัม ทิ้งไว้หลายชั่วโมงเพื่อให้น้ำเบอร์รี่ไหลออกมา
  2. จากนั้นนำไปใส่ในกระทะแล้วต้มด้วยไฟอ่อนๆ
  3. ต้มให้เดือดพอดีๆ ประมาณ 5 นาที คนตลอดเวลา และเติมน้ำตาลลงไปทีละน้อย
  4. ปิดเจลลี่แล้วปล่อยให้เย็นลง
  5. หลังจากผ่านไป 24 ชั่วโมง ให้ทำซ้ำขั้นตอนการต้มอีกครั้ง
  6. ทำแบบนี้สามครั้ง
  7. จากนั้นเทใส่ขวดแล้วปิดฝาให้แน่น

โดยไม่ต้องปรุงอาหาร

สูตรนี้ช่วยให้คุณเก็บรักษาวิตามินไว้ได้มากที่สุด เนื่องจากผลเบอร์รี่ไม่ได้ผ่านความร้อน

วัตถุดิบ:

  • บลูเบอร์รี่;
  • น้ำตาล.

วิธีการเตรียม:

  • คัดแยกและล้างบลูเบอร์รี่ โรยบลูเบอร์รี่บางๆ บนผ้าขนหนู เช็ดน้ำส่วนเกินออก
  • สับเบอร์รี่ตามวิธีที่สะดวก

ขั้นตอนการทำเยลลี่บลูเบอร์รี่

  • เติมน้ำตาล: สำหรับบลูเบอร์รี่ครึ่งลิตร – น้ำตาล 1 ลิตร
  • ผสมให้เข้ากันแล้วใส่ลงในขวดที่ผ่านการฆ่าเชื้อแล้ว
  • โรยน้ำตาลด้านบนสูง 1 ซม. เพื่อสร้างเปลือกและป้องกันการเกิดกระบวนการหมัก
  • หรือแช่กระดาษรองอบที่มีขนาดเท่าคอขวดในวอดก้าแล้ววางไว้บนแยม
  • ปิดด้วยฝาไนลอน เก็บไว้ในห้องใต้ดินหรือตู้เย็น

จากผลเบอร์รี่แช่แข็ง

วัตถุดิบ:

การตระเตรียม:

  1. ละลายน้ำแข็งเบอร์รี่ก่อน
  2. สับผลไม้ เติมน้ำตาลและน้ำมะนาวสักสองสามหยด
  3. แช่เจลาตินในน้ำอุ่นแล้วปล่อยให้พองตัว นำไปอุ่นในอ่างน้ำจนละลายหมด
  4. นำเบอร์รี่บดไปต้มจนเดือด ใส่เจลาตินลงไป
  5. เทใส่ภาชนะ ปิดฝา และปล่อยให้เย็นที่อุณหภูมิห้อง
  6. หลังจากเย็นแล้วเก็บในตู้เย็น

บลูเบอร์รี่สับ

ด้วยเพกติน

สินค้า:

  • บลูเบอร์รี่ – 300 กรัม;
  • น้ำตาล – ตามชอบ;
  • เพกติน – 30 กรัม;
  • น้ำ – 1 ลิตร

วิธีการเตรียม:

  1. ละลายเพกตินในน้ำและคนจนกลายเป็นเนื้อคล้ายวุ้น
  2. เทน้ำที่เหลือลงในภาชนะ ใส่เบอร์รี่ลงไปแล้วต้มให้เดือด
  3. ปล่อยให้เย็นถึงอุณหภูมิห้องแล้วกรอง
  4. วางกลับลงบนความร้อนแล้วต้มจนเดือด
  5. พอเดือดแล้วใส่น้ำตาลลงไป น้ำเชื่อมควรจะหวาน
  6. เติมเพกตินเจือจาง
  7. ยกออกจากความร้อน เทใส่ขวดแล้วปิดผนึก

กับแอปเปิ้ล

สินค้า:

  • เบอร์รี่ – 1 กิโลกรัม;
  • แอปเปิ้ล – 1 กิโลกรัม;
  • น้ำตาล – 600 กรัม.

ขั้นตอนการปรุงอาหาร:

  • ล้างแอปเปิ้ล เอาแกนออก ปอกเปลือกแล้วหั่นเป็นชิ้นๆ
  • คัดแยก ล้าง และสับบลูเบอร์รี่
  • ปิดฝาแอปเปิลด้วยน้ำแล้วปรุงเป็นเวลา 20 นาที
  • ต้มบลูเบอร์รี่ประมาณ 10 นาที

บลูเบอร์รี่ต้ม

  • กรองน้ำผลไม้ที่ได้และผสมเข้าด้วยกัน
  • ต้มจนปริมาณลดลงสามเท่า
  • เติมน้ำตาลลงไปแล้วปรุงจนได้ความข้นตามต้องการ
  • ตักฟองออกเมื่อปรุงเสร็จในขั้นตอนสุดท้าย
  • เทใส่ภาชนะที่เตรียมไว้ทันทีและปิดฝาให้สนิท
  • เมื่อเย็นลงแล้วเก็บเข้าที่

ด้วยมะนาว

วัตถุดิบ:

  • เบอร์รี่ – 1 กิโลกรัม;
  • น้ำตาล – 600 กรัม;
  • มะนาว ½ ชิ้น

การเตรียมการทีละขั้นตอน:

  1. นำมาบดจากผลเบอร์รี่ที่เตรียมไว้
  2. ผสมกับน้ำตาลแล้วต้มจนเดือด
  3. เติมน้ำมะนาวลงไปแล้วต้มอีกครั้ง
  4. เคี่ยวจนกระทั่งข้นขึ้น
  5. ตรวจสอบความพร้อมแบบทีละขั้นตอน
  6. เติมเปลือกมะนาวขูด 5 นาทีก่อนสิ้นสุดการปรุงอาหาร

บลูเบอร์รี่และมะนาว

ด้วยองุ่น

การผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างเยลลี่และองุ่นสร้างรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ของหวานนี้ถูกใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่

รายการส่วนประกอบ:

  • องุ่น – 200 กรัม;
  • บลูเบอร์รี่ – 200 กรัม;
  • เจลาติน – 50 กรัม;
  • น้ำตาล – 150 กรัม.

การตระเตรียม:

  1. แยกองุ่นออกจากก้านแล้วล้างให้สะอาด
  2. เตรียมบลูเบอร์รี่
  3. ใส่น้ำตาลลงในชาม เติมน้ำ 1.5 ถ้วย เคี่ยวจนเป็นน้ำเชื่อมหวาน พักไว้ให้เย็น
  4. ใส่องุ่นและบลูเบอร์รี่ลงในภาชนะแล้วราดด้วยน้ำเชื่อม
  5. เก็บไว้ในตู้เย็น

ด้วยเอลเดอร์เบอร์รี่

ส่วนประกอบ:

  • เอลเดอร์เบอร์รี่ – 1 กิโลกรัม;
  • บลูเบอร์รี่ – 1 กิโลกรัม;
  • น้ำ – 2 ลิตร;
  • น้ำตาล;
  • น้ำมะนาว.

ต้นเอลเดอร์

การตระเตรียม:

  1. เตรียมผลเบอร์รี่และปรุงแยกกันจนนิ่ม
  2. กรองน้ำผลไม้โดยใช้ผ้าขาวบาง
  3. ผสมน้ำผลไม้
  4. สำหรับน้ำผลไม้ 1 ลิตร ให้เติมน้ำตาลทราย 0.5 กิโลกรัม
  5. ต้มในกระทะจนได้ความข้นที่ต้องการ
  6. หากต้องการให้แข็งขึ้น คุณสามารถเติมเพกตินได้
  7. เทลงในขวดแล้วปิดผนึก

วิธีเก็บรักษาขนมอย่างถูกวิธี

เก็บเยลลี่บลูเบอร์รี่ให้ปิดสนิทในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก แห้ง และเย็น ห้องใต้ดินจะดีที่สุด หลีกเลี่ยงการเก็บในพื้นที่ที่อากาศเย็นจัดในช่วงฤดูหนาว การสัมผัสกับอุณหภูมิต่ำอาจทำให้ขวดแตกและทำให้ของข้างในเน่าเสีย ทานให้อร่อย!

harvesthub-th.decorexpro.com
เพิ่มความคิดเห็น

แตงกวา

แตงโม

มันฝรั่ง