เยลลี่บลูเบอร์รี่สำหรับฤดูหนาวไม่เพียงแต่สวยงามเท่านั้น แต่ยังอร่อยอย่างไม่น่าเชื่ออีกด้วย บลูเบอร์รี่เป็นแหล่งสะสมวิตามินและสารอาหารที่จำเป็นต่อการทำงานของร่างกาย มีประโยชน์ต่อการมองเห็นและใช้เป็นมาตรการป้องกันโรคมะเร็ง
ผลิตภัณฑ์นี้สามารถรับประทานดิบๆ หรือนำไปใช้เตรียมอาหารต่างๆ สำหรับฤดูหนาวได้
จุดเด่นของการทำเยลลี่บลูเบอร์รี่
เคล็ดลับการทำเยลลี่บลูเบอร์รี่:
- บลูเบอร์รี่นิ่มมาก ดังนั้นจึงควรเก็บเกี่ยวในช่วงอากาศแห้ง ที่สำคัญคืออย่าปล่อยให้บลูเบอร์รี่สุกเกินไป เพราะจะทำให้เก็บเกี่ยวยากขึ้น
- การเก็บเกี่ยวและการคัดแยกจะต้องสวมถุงมือ เนื่องจากน้ำบลูเบอร์รี่จะทำให้ทุกสิ่งที่สัมผัสเปื้อน
- ผลเบอร์รี่จะต้องล้างในกระชอน
- การอบด้วยความร้อนเพียงระยะสั้นจะช่วยรักษาคุณค่าสารอาหารไว้ได้สูงสุด

วิธีเลือกบลูเบอร์รี่ก่อนเริ่มกระบวนการ
การเก็บบลูเบอร์รี่เองในป่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด วิธีนี้จะทำให้คุณมั่นใจได้ว่าบลูเบอร์รี่สดและปลอดรังสี
เมื่อซื้อผลเบอร์รี่ที่ตลาด สิ่งสำคัญคือต้องถามผู้ขายว่าเก็บผลเบอร์รี่มาจากที่ไหน หรือทดสอบผลเบอร์รี่ด้วยเครื่องวัดปริมาณรังสี
เมื่อเตรียมแยม สิ่งสำคัญคือต้องเลือกเบอร์รีที่สดและสุก หากเบอร์รีสุกเกินไป เบอร์รีจะแตกในมือและกลายเป็นก้อนเละๆ

วิธีทำเยลลี่บลูเบอร์รี่ที่บ้าน
มีสูตรทำเยลลี่จากเบอร์รี่ชนิดนี้มากมาย มีการเติมสารปรุงแต่งเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มรสชาติ
สูตรอาหารง่ายๆ สำหรับหน้าหนาว
แม้แต่เด็กวัยรุ่นก็สามารถทำเยลลี่ได้ด้วยสูตรนี้
วัตถุดิบ:
- เบอร์รี่ – 2.5 ถ้วย;
- น้ำ – 1.5 ถ้วย;
- น้ำตาล – 3 ถ้วย
วิธีการเตรียม:
- แยกบลูเบอร์รี่โดยตัดใบ ราก และผลที่เน่าออก ล้างในกระชอน
- เทน้ำลงในหม้อแล้วต้มให้เดือด เมื่อน้ำเดือดแล้ว ใส่เบอร์รี่ที่เตรียมไว้ลงไป
- หลังจากเดือดแล้วใส่น้ำตาลลงไปแล้วคนให้เข้ากัน
- ต้มไฟอ่อนประมาณ 20 นาที ตักฟองออก
- ใส่บลูเบอร์รี่ลงในขวดที่ผ่านการฆ่าเชื้อแล้วและปิดผนึก
- ขนมจะมีลักษณะเป็นของเหลว แต่เมื่อเย็นลงก็จะกลายเป็นเหมือนเยลลี่

ด้วยเจลาติน
วัตถุดิบ:
- บลูเบอร์รี่ – 250 กรัม;
- เจลาติน 5 แผ่น;
- น้ำตาล – ตามชอบ;
- น้ำ – 1 แก้ว
การตระเตรียม:
- แยกผลเบอร์รี่แล้วล้างออกใต้น้ำไหล
- ใส่น้ำลงในหม้อก้นหนา แล้วใส่เบอร์รี่ลงไป ต้มจนเบอร์รี่แตกตัวและปล่อยน้ำออกมา เติมน้ำตาลลงไปแล้วต้มต่อ
- ตักส่วนผสมจำนวนเล็กน้อยใส่ถ้วย ทิ้งไว้ให้เย็นแล้วละลายเจลาติน
- หากต้องการละลายหมดให้นำไปอุ่นในอ่างน้ำ
- ผสมส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกันแล้วนำไปต้มจนเดือด
- เทใส่ขวดที่เตรียมไว้แล้วม้วนขึ้น

ไม่มีเจลาติน
สินค้า:
- บลูเบอร์รี่ – 3 กิโลกรัม;
- น้ำตาล – 2.5 กิโลกรัม.
การตระเตรียม:
- ใส่เบอร์รี่ที่เตรียมไว้ลงในภาชนะ เติมน้ำตาลหนึ่งกิโลกรัม ทิ้งไว้หลายชั่วโมงเพื่อให้น้ำเบอร์รี่ไหลออกมา
- จากนั้นนำไปใส่ในกระทะแล้วต้มด้วยไฟอ่อนๆ
- ต้มให้เดือดพอดีๆ ประมาณ 5 นาที คนตลอดเวลา และเติมน้ำตาลลงไปทีละน้อย
- ปิดเจลลี่แล้วปล่อยให้เย็นลง
- หลังจากผ่านไป 24 ชั่วโมง ให้ทำซ้ำขั้นตอนการต้มอีกครั้ง
- ทำแบบนี้สามครั้ง
- จากนั้นเทใส่ขวดแล้วปิดฝาให้แน่น
โดยไม่ต้องปรุงอาหาร
สูตรนี้ช่วยให้คุณเก็บรักษาวิตามินไว้ได้มากที่สุด เนื่องจากผลเบอร์รี่ไม่ได้ผ่านความร้อน
วัตถุดิบ:
- บลูเบอร์รี่;
- น้ำตาล.
วิธีการเตรียม:
- คัดแยกและล้างบลูเบอร์รี่ โรยบลูเบอร์รี่บางๆ บนผ้าขนหนู เช็ดน้ำส่วนเกินออก
- สับเบอร์รี่ตามวิธีที่สะดวก

- เติมน้ำตาล: สำหรับบลูเบอร์รี่ครึ่งลิตร – น้ำตาล 1 ลิตร
- ผสมให้เข้ากันแล้วใส่ลงในขวดที่ผ่านการฆ่าเชื้อแล้ว
- โรยน้ำตาลด้านบนสูง 1 ซม. เพื่อสร้างเปลือกและป้องกันการเกิดกระบวนการหมัก
- หรือแช่กระดาษรองอบที่มีขนาดเท่าคอขวดในวอดก้าแล้ววางไว้บนแยม
- ปิดด้วยฝาไนลอน เก็บไว้ในห้องใต้ดินหรือตู้เย็น
จากผลเบอร์รี่แช่แข็ง
วัตถุดิบ:
- บลูเบอร์รี่แช่แข็ง – 600 กรัม;
- เจลาติน – 40 กรัม;
- น้ำ – 1 แก้ว;
- น้ำตาลและน้ำมะนาวตามชอบ
การตระเตรียม:
- ละลายน้ำแข็งเบอร์รี่ก่อน
- สับผลไม้ เติมน้ำตาลและน้ำมะนาวสักสองสามหยด
- แช่เจลาตินในน้ำอุ่นแล้วปล่อยให้พองตัว นำไปอุ่นในอ่างน้ำจนละลายหมด
- นำเบอร์รี่บดไปต้มจนเดือด ใส่เจลาตินลงไป
- เทใส่ภาชนะ ปิดฝา และปล่อยให้เย็นที่อุณหภูมิห้อง
- หลังจากเย็นแล้วเก็บในตู้เย็น

ด้วยเพกติน
สินค้า:
- บลูเบอร์รี่ – 300 กรัม;
- น้ำตาล – ตามชอบ;
- เพกติน – 30 กรัม;
- น้ำ – 1 ลิตร
วิธีการเตรียม:
- ละลายเพกตินในน้ำและคนจนกลายเป็นเนื้อคล้ายวุ้น
- เทน้ำที่เหลือลงในภาชนะ ใส่เบอร์รี่ลงไปแล้วต้มให้เดือด
- ปล่อยให้เย็นถึงอุณหภูมิห้องแล้วกรอง
- วางกลับลงบนความร้อนแล้วต้มจนเดือด
- พอเดือดแล้วใส่น้ำตาลลงไป น้ำเชื่อมควรจะหวาน
- เติมเพกตินเจือจาง
- ยกออกจากความร้อน เทใส่ขวดแล้วปิดผนึก
กับแอปเปิ้ล
สินค้า:
- เบอร์รี่ – 1 กิโลกรัม;
- แอปเปิ้ล – 1 กิโลกรัม;
- น้ำตาล – 600 กรัม.
ขั้นตอนการปรุงอาหาร:
- ล้างแอปเปิ้ล เอาแกนออก ปอกเปลือกแล้วหั่นเป็นชิ้นๆ
- คัดแยก ล้าง และสับบลูเบอร์รี่
- ปิดฝาแอปเปิลด้วยน้ำแล้วปรุงเป็นเวลา 20 นาที
- ต้มบลูเบอร์รี่ประมาณ 10 นาที

- กรองน้ำผลไม้ที่ได้และผสมเข้าด้วยกัน
- ต้มจนปริมาณลดลงสามเท่า
- เติมน้ำตาลลงไปแล้วปรุงจนได้ความข้นตามต้องการ
- ตักฟองออกเมื่อปรุงเสร็จในขั้นตอนสุดท้าย
- เทใส่ภาชนะที่เตรียมไว้ทันทีและปิดฝาให้สนิท
- เมื่อเย็นลงแล้วเก็บเข้าที่
ด้วยมะนาว
วัตถุดิบ:
- เบอร์รี่ – 1 กิโลกรัม;
- น้ำตาล – 600 กรัม;
- มะนาว ½ ชิ้น
การเตรียมการทีละขั้นตอน:
- นำมาบดจากผลเบอร์รี่ที่เตรียมไว้
- ผสมกับน้ำตาลแล้วต้มจนเดือด
- เติมน้ำมะนาวลงไปแล้วต้มอีกครั้ง
- เคี่ยวจนกระทั่งข้นขึ้น
- ตรวจสอบความพร้อมแบบทีละขั้นตอน
- เติมเปลือกมะนาวขูด 5 นาทีก่อนสิ้นสุดการปรุงอาหาร

ด้วยองุ่น
การผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างเยลลี่และองุ่นสร้างรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ของหวานนี้ถูกใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่
รายการส่วนประกอบ:
- องุ่น – 200 กรัม;
- บลูเบอร์รี่ – 200 กรัม;
- เจลาติน – 50 กรัม;
- น้ำตาล – 150 กรัม.
การตระเตรียม:
- แยกองุ่นออกจากก้านแล้วล้างให้สะอาด
- เตรียมบลูเบอร์รี่
- ใส่น้ำตาลลงในชาม เติมน้ำ 1.5 ถ้วย เคี่ยวจนเป็นน้ำเชื่อมหวาน พักไว้ให้เย็น
- ใส่องุ่นและบลูเบอร์รี่ลงในภาชนะแล้วราดด้วยน้ำเชื่อม
- เก็บไว้ในตู้เย็น
ด้วยเอลเดอร์เบอร์รี่
ส่วนประกอบ:
- เอลเดอร์เบอร์รี่ – 1 กิโลกรัม;
- บลูเบอร์รี่ – 1 กิโลกรัม;
- น้ำ – 2 ลิตร;
- น้ำตาล;
- น้ำมะนาว.

การตระเตรียม:
- เตรียมผลเบอร์รี่และปรุงแยกกันจนนิ่ม
- กรองน้ำผลไม้โดยใช้ผ้าขาวบาง
- ผสมน้ำผลไม้
- สำหรับน้ำผลไม้ 1 ลิตร ให้เติมน้ำตาลทราย 0.5 กิโลกรัม
- ต้มในกระทะจนได้ความข้นที่ต้องการ
- หากต้องการให้แข็งขึ้น คุณสามารถเติมเพกตินได้
- เทลงในขวดแล้วปิดผนึก
วิธีเก็บรักษาขนมอย่างถูกวิธี
เก็บเยลลี่บลูเบอร์รี่ให้ปิดสนิทในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก แห้ง และเย็น ห้องใต้ดินจะดีที่สุด หลีกเลี่ยงการเก็บในพื้นที่ที่อากาศเย็นจัดในช่วงฤดูหนาว การสัมผัสกับอุณหภูมิต่ำอาจทำให้ขวดแตกและทำให้ของข้างในเน่าเสีย ทานให้อร่อย!











