มะเขือเทศพิงค์ดรีม F1 เป็นมะเขือเทศลูกผสมรุ่นแรก เหมาะสำหรับปลูกทั้งในเรือนกระจกและแปลงโล่ง พันธุ์นี้สุกเร็ว มีรสชาติดีเยี่ยม เหมาะแก่การตลาด และให้ผลผลิตสูง
ข้อดีของไฮบริด
มะเขือเทศพันธุ์พิงค์ดรีมจัดอยู่ในกลุ่มมะเขือเทศที่สุกเร็ว ใช้เวลา 95-100 วันตั้งแต่งอกจนติดผล ลักษณะการเจริญเติบโตของพันธุ์ผสมยังไม่แน่นอน ลักษณะของต้นมีลักษณะใบปานกลางและปล้องสั้น

ช่อดอกแรกจะก่อตัวที่ระดับใบที่ 5 หรือ 6 ก้านดอกถัดไปจะก่อตัวเป็นช่วงๆ ทุกๆ 3 ใบ ช่อดอกเดี่ยวจะมีดอก 6-7 ดอก มะเขือเทศจะก่อตัวพร้อมกันใน 4 ช่อแรก โดยผลสุกจะมีรูปร่างและขนาดที่สม่ำเสมอ
มะเขือเทศมีรูปหัวใจ ปลายแหลมเป็นเอกลักษณ์ สีชมพูเข้มและผิวมันวาว เมื่อตัดตามแนวนอนจะพบช่องเมล็ด 5-6 ช่อง พันธุ์พิงค์ดรีมมีลักษณะเด่นคือการเก็บเกี่ยวแบบค่อยเป็นค่อยไป
มะเขือเทศไม่แตกง่าย เนื้อแน่น เปลือกนุ่มแต่แน่น มะเขือเทศมีเนื้อแห้ง 5.7-6% และมีปริมาณน้ำตาลสูงกว่ากรด

น้ำหนักผล 180-250 กรัม ผลผลิต 13-15 กิโลกรัมต่อตารางเมตร รีวิวจากผู้ปลูกผักระบุว่าพันธุ์พิงค์ดรีมต้านทานไวรัสใบยาสูบและโรคจุดดำจากแบคทีเรีย เนื่องจากมีความสูง จึงทำให้พืชพันธุ์นี้มีโอกาสเกิดโรคใบไหม้ปลายใบน้อยกว่า
คำอธิบายของพันธุ์ผสมนี้บ่งบอกถึงคุณภาพทางการค้าและรสชาติที่ยอดเยี่ยม รวมถึงความสามารถในการขนส่งผลไม้ได้เป็นระยะทางไกล ในการปรุงอาหาร มะเขือเทศถูกนำมาใช้สดในอาหารหลากหลายชนิด
เทคนิคการเพาะปลูก
พันธุ์พิงค์ดรีมปลูกจากต้นกล้า การเตรียมเมล็ดพันธุ์ทำได้โดยการนำเมล็ดไปแช่ในสารละลายโพแทสเซียมเปอร์แมงกาเนตในน้ำและสารกระตุ้นการเจริญเติบโต
นำเมล็ดพันธุ์ใส่ภาชนะที่ผสมดินปลูกไว้ลึก 1 ซม. บดดินให้แน่นเล็กน้อย แล้วรดน้ำด้วยน้ำอุ่นโดยใช้ขวดสเปรย์ คลุมภาชนะด้วยพลาสติกแรปจนกว่าเมล็ดจะงอกออกมาเพื่อสร้างบรรยากาศเรือนกระจก
การปลูกต้นกล้าต้องอาศัยการรักษาอุณหภูมิและสภาพแสงให้เหมาะสม ควรใช้หลอดฟลูออเรสเซนต์เพื่อยืดเวลาแสง เมื่อใบจริงงอกออกมาหนึ่งหรือสองใบแล้ว ให้ย้ายต้นกล้าลงกระถางแยกกัน

กระถางพีทเหมาะอย่างยิ่งสำหรับจุดประสงค์นี้ เพราะทำให้ปลูกต้นไม้ในตำแหน่งถาวรได้ง่าย เมื่อปลูกลงดิน แนะนำให้เว้นระยะห่างระหว่างต้น 3-4 ต้นต่อตารางเมตร
ลูกผสมนี้มีแนวโน้มที่จะสร้างยอดข้างเพิ่มขึ้น การก่อตัวของยอดแม้บนช่อดอกก็ถูกกระตุ้นด้วยปริมาณแร่ธาตุที่เพิ่มขึ้นในดิน
การมียอดอ่อนส่งผลเสียต่อผลผลิตของพุ่มไม้ และในที่ร่มและความชื้นที่เกิดจากยอดอ่อน พืชจะเสี่ยงต่อการเกิดโรคไวรัสและเชื้อราได้ง่าย
ลักษณะของพันธุ์ผสมบ่งบอกถึงความจำเป็นในการผูกพุ่มกับฐานรองรับ เพื่อเพิ่มผลผลิต แนะนำให้ปลูกใน 1 ลำต้น

หน่อข้างจะเริ่มงอกหลังจากก้านดอกแรกปรากฏขึ้น บางครั้งอาจมีช่อดอกเหลืออยู่และยอดจะถูกบีบออกจนเหลือใบสองใบ การปล่อยช่อดอกไว้แต่ละช่อจะช่วยให้มะเขือเทศส่วนใหญ่สุกเร็วขึ้นมาก เมื่อต้นเจริญเติบโต ควรตัดหน่อข้างส่วนเกินออกสัปดาห์ละครั้งเพื่อให้น้ำเลี้ยงไหลเวียนได้ดี
ขอแนะนำให้ตัดใบล่างออก ไม่ควรตัดใบเกินสามใบในแต่ละครั้ง มิฉะนั้นต้นจะเครียดและชะงักการเจริญเติบโต สามารถตัดแต่งทรงพุ่มได้โดยการตัดยอดข้างออกทั้งหมด เหลือไว้ 5-7 ช่อ วิธีนี้ช่วยให้ต้นสุกอย่างสม่ำเสมอ
การดูแลพืชผลประกอบด้วยขั้นตอนต่างๆ มากมาย เช่น การพรวนดินและการพรวนดิน ระหว่างการเพาะปลูก สิ่งสำคัญคือต้องตรวจสอบความชื้นในดินและใส่ปุ๋ยแร่ธาตุและปุ๋ยอินทรีย์ให้ตรงเวลา










