- ส่วนประกอบของส้ม
- คุณค่าทางโภชนาการและปริมาณแคลอรี่ของผลไม้
- ผลไม้ที่แนะนำให้บริโภคในรูปแบบไหน?
- ในความสดใหม่
- แห้ง
- น้ำผลไม้
- กฎเกณฑ์การรับประทานอาหาร
- ปริมาณการบริโภคต่อวัน
- กินส้มเยอะๆ ดีต่อสุขภาพจริงหรือ?
- ส้มตอนท้องว่าง: ประโยชน์และโทษ
- กินส้มตอนกลางคืนเป็นอันตรายไหม?
- สรรพคุณของเนื้อส้ม
- สำหรับผู้หญิง
- สำหรับผู้ชาย
- สำหรับเด็ก
- ในระหว่างตั้งครรภ์และให้นมบุตร
- ประโยชน์ของเมล็ดส้ม
- ประโยชน์ของเปลือกส้ม
- ผลกระทบทั่วไปต่อร่างกาย
- เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
- การทำให้ระบบทางเดินอาหารเป็นปกติ
- การป้องกันปัญหาโรคหัวใจ
- การมีส่วนร่วมในกระบวนการสร้างเม็ดเลือด
- มีประโยชน์ต่อผิวหนังและเส้นผม
- ประโยชน์ต่อตับ
- ใช้ในยาพื้นบ้าน
- อันตรายและข้อห้าม
หลายคนสงสัยว่าส้มมีประโยชน์อะไรบ้าง ผลไม้รสเปรี้ยวชนิดนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก รสชาติดีเยี่ยมและมีส่วนประกอบที่มีคุณค่ามากมาย ทั้งวิตามิน แร่ธาตุ กรดอะมิโน และสารอื่นๆ ดังนั้นการรับประทานส้มเป็นประจำจึงช่วยเสริมสร้างการทำงานของร่างกาย
ส่วนประกอบของส้ม
ส้มอุดมไปด้วยวิตามิน โดยเฉพาะวิตามินซี วิตามินบี พี เอ และดี นอกจากนี้ยังมีแร่ธาตุที่มีประโยชน์ เช่น ธาตุเหล็ก โพแทสเซียม และแคลเซียม นอกจากนี้ยังมีแมกนีเซียม โซเดียม แมงกานีส และฟอสฟอรัสอีกด้วย
คุณค่าทางโภชนาการและปริมาณแคลอรี่ของผลไม้
ผลไม้ตระกูลส้มนี้ถือเป็นอาหารแคลอรีต่ำ โดย 100 กรัมมีแคลอรีไม่เกิน 47 กิโลแคลอรี คุณค่าทางโภชนาการของผลิตภัณฑ์มีดังนี้:
- โปรตีน 0.9 กรัม;
- คาร์โบไฮเดรต 8.1 กรัม;
- ไขมัน 0.2 กรัม
ผลไม้ที่แนะนำให้บริโภคในรูปแบบไหน?
เพื่อให้มั่นใจว่าส้มจะให้ประโยชน์สูงสุดต่อร่างกาย ขอแนะนำให้เรียนรู้วิธีการบริโภคส้มอย่างถูกต้อง
ในความสดใหม่
ควรรับประทานผลไม้สดจะดีกว่า เนื่องจากผลิตภัณฑ์นี้มีสารอาหารครบถ้วน อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้คือผลไม้รสเปรี้ยวก็มีข้อห้ามใช้เช่นกัน

แห้ง
ส้มฝานมักนำไปตากแห้ง ซึ่งจะช่วยยืดอายุการเก็บรักษา นอกจากนี้ยังสามารถนำไปใส่ในชาหรือขนมอบได้อีกด้วย ส้มแห้งยังมีส่วนประกอบที่เป็นประโยชน์มากมาย มีคุณสมบัติต้านการอักเสบและลดไข้ ช่วยย่อยอาหาร และเพิ่มพลังงานโดยรวม
น้ำผลไม้
น้ำส้มคั้นสดอุดมไปด้วยวิตามินอันทรงคุณค่ามากมาย ทั้งวิตามินซี เอ อี และบี นอกจากนี้ยังมีไบโอฟลาโวนอยด์ แร่ธาตุ และกรดอะมิโนอีกด้วย
สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้คือส่วนผสมที่หลากหลายนี้มักพบในน้ำผลไม้คั้นสดเท่านั้น น้ำผลไม้ที่ซื้อจากร้านจะมีคุณค่าทางโภชนาการน้อยกว่า
กฎเกณฑ์การรับประทานอาหาร
เพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์จะให้ประโยชน์สูงสุดแก่ร่างกาย ควรทำความคุ้นเคยกับกฎสำคัญในการใช้งาน
ปริมาณการบริโภคต่อวัน
แนะนำให้ผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพแข็งแรงรับประทานผลไม้ขนาดกลาง 2 ผลต่อวัน อย่างไรก็ตาม ไม่แนะนำให้รับประทานผลไม้ 1 ผลต่อวัน

กินส้มเยอะๆ ดีต่อสุขภาพจริงหรือ?
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าไม่ควรบริโภคผลไม้รสเปรี้ยวมากเกินไป การบริโภคส้มมากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการแพ้และปัญหาระบบย่อยอาหารต่างๆ ได้
ส้มตอนท้องว่าง: ประโยชน์และโทษ
ส้มควรรับประทานในตอนเช้า ผลไม้ชนิดนี้ช่วยปลุกร่างกายให้ตื่นตัวและกระตุ้นกระบวนการเผาผลาญ
อย่างไรก็ตาม แพทย์ไม่แนะนำให้รับประทานผลิตภัณฑ์นี้ขณะท้องว่าง เพราะอาจเป็นอันตรายได้ ส้มกระตุ้นการผลิตกรดในกระเพาะอาหาร การรับประทานส้มบ่อยๆ ขณะท้องว่างอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคกระเพาะอักเสบได้
กินส้มตอนกลางคืนเป็นอันตรายไหม?
การรับประทานผลิตภัณฑ์นี้ก่อนนอนก็มีประโยชน์เช่นกัน ผลไม้ใช้เวลาย่อยไม่เกินครึ่งชั่วโมง จึงไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย นอกจากนี้ยังไม่ก่อให้เกิดการสะสมไขมันอีกด้วย
สรรพคุณของเนื้อส้ม
ผลไม้อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ด้วยเหตุนี้จึงมักใช้รักษาและป้องกันโรคต่างๆ วิตามินซีสูงในผลไม้ช่วยฟื้นฟูพลังงาน ป้องกันไวรัสและการติดเชื้อ และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน

ส้มมีองค์ประกอบที่สมดุลซึ่งช่วยปรับปรุงการทำงานของหัวใจและหลอดเลือด ปรับความดันโลหิตให้เป็นปกติ เสริมสร้างกระดูก และปรับปรุงการทำงานของระบบย่อยอาหาร
สำหรับผู้หญิง
ผลไม้ตระกูลส้มมีประโยชน์ต่อระบบสืบพันธุ์ จึงเป็นประโยชน์ต่อสตรี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระหว่างตั้งครรภ์ ผลไม้ตระกูลส้มมีกรดโฟลิก ซึ่งช่วยส่งเสริมพัฒนาการตามปกติของระบบประสาทของทารก และลดความเสี่ยงของปัญหาโรคหัวใจ
ผลิตภัณฑ์นี้โดดเด่นด้วยคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระที่เด่นชัด การบริโภคส้มเป็นประจำช่วยปกป้องผิวจากริ้วรอยก่อนวัยและช่วยคงความกระชับและความยืดหยุ่น
ผู้หญิงที่รับประทานผลิตภัณฑ์นี้เป็นประจำมีโอกาสเกิดเนื้องอกร้ายน้อยลงมาก นอกจากนี้ ผลไม้ยังช่วยลดความหิวและลดความอยากอาหาร ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดีในเลือดและส่งเสริมการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว

ส้มมีสรรพคุณทางยาที่เด่นชัด การกินส้มสามารถช่วยบรรเทาอาการนอนไม่หลับ ฟื้นฟูการนอนหลับให้เป็นปกติ บรรเทาความเครียด และบรรเทาอาการซึมเศร้า
สำหรับผู้ชาย
ส้มให้สารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของผู้ชาย อุดมไปด้วยวิตามินซี ซึ่งมีประโยชน์ต่อระบบสืบพันธุ์ การรับประทานส้มช่วยปรับปรุงคุณภาพของสารพันธุกรรม ดังนั้นจึงแนะนำให้รับประทานส้มในระหว่างการวางแผนการตั้งครรภ์
นอกจากนี้ ผลไม้รสเปรี้ยวยังช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดสมองและหัวใจวายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะผู้ชายที่มีแนวโน้มเป็นโรคเหล่านี้มากกว่า
สำหรับเด็ก
ผลไม้ชนิดนี้ยังมีประโยชน์ต่อเด็กอีกด้วย เพราะให้วิตามินแก่ร่างกายและช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง อย่างไรก็ตาม ไม่แนะนำให้เด็กอายุต่ำกว่า 1 ขวบรับประทานส้ม เพราะอาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้
เด็กอายุมากกว่า 1 ปี สามารถรับประทานผลไม้สักชิ้นหนึ่งเพื่อติดตามอาการ หากไม่มีอาการไม่พึงประสงค์ ควรค่อยๆ เพิ่มขนาดยา
เด็กอายุต่ำกว่า 7 ปี ไม่ควรรับประทานส้มเกิน 1 ลูกต่อวัน

ในระหว่างตั้งครรภ์และให้นมบุตร
หญิงตั้งครรภ์ต้องการกรดโฟลิก ผลไม้มีสารอาหารชนิดนี้อยู่เป็นจำนวนมาก วิตามินซี อี และเอ ซึ่งพบในผลไม้รสเปรี้ยวก็มีประโยชน์ต่อการตั้งครรภ์เช่นกัน แพทย์อนุญาตให้หญิงตั้งครรภ์รับประทานผลไม้รสเปรี้ยวได้วันละสองผล เว้นแต่ว่าจะมีอาการแพ้
ระหว่างให้นมบุตร ควรบริโภคผลิตภัณฑ์นี้ด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง เนื่องจากมักก่อให้เกิดอาการแพ้ในเด็กเล็ก ดังนั้น ควรบริโภคส้มหลังจากคลอดบุตรเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องคำนึงถึงปริมาณที่พอเหมาะ
ประโยชน์ของเมล็ดส้ม
เมล็ดส้มมีส่วนประกอบเฉพาะตัวเช่นเดียวกับผลส้ม นี่คือเหตุผลที่ใช้เนื้อส้มที่ไม่ผ่านการแปรรูป รวมถึงเมล็ดส้ม มาทำน้ำผลไม้สด
เมล็ดที่บดแล้วมักถูกนำมาใช้ในยาพื้นบ้านและเครื่องสำอาง ผู้คนมักปลูกต้นไม้ในบ้านจากเมล็ดส้ม เมล็ดส้มไม่ได้ให้ผล แต่ช่วยฟอกอากาศได้

ประโยชน์ของเปลือกส้ม
เปลือกส้มมีส่วนประกอบที่มีคุณค่ามากมาย รวมถึงแร่ธาตุ วิตามินเอ และกรดแอสคอร์บิก เปลือกส้มสดหรือเปลือกแห้งมักใช้เป็นยาพื้นบ้าน เปลือกส้มสามารถนำมาทำชาเพื่อสุขภาพที่อร่อยได้
หลายคนยังนำเปลือกส้มมาวางไว้รอบบ้านด้วย วิธีนี้ช่วยให้อากาศสดชื่นและมีกลิ่นหอม สร้างบรรยากาศภายในบ้านที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น
ผลกระทบทั่วไปต่อร่างกาย
ส้มมีองค์ประกอบที่อุดมสมบูรณ์จึงมีผลกระทบต่อร่างกายที่ซับซ้อน
เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
ส้มมีกรดแอสคอร์บิกสูง จึงช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและต่อสู้กับการติดเชื้อไวรัสและหวัด การรับประทานส้มมีประโยชน์ต่อภาวะขาดวิตามิน ซึ่งมักเกิดขึ้นในช่วงฤดูหนาว วิตามินเอ ซี และบีในส้มช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็ว
การทำให้ระบบทางเดินอาหารเป็นปกติ
การรับประทานส้มเป็นประจำช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการย่อยอาหาร ช่วยขจัดกระบวนการเน่าเสียในลำไส้ นอกจากนี้ ส้มยังช่วยบรรเทาอาการท้องผูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยล้างสารพิษและของเสียจากการเผาผลาญในร่างกาย

การป้องกันปัญหาโรคหัวใจ
ส้มมีสารฟลาโวนอยด์ ซึ่งช่วยป้องกันการอุดตันของหลอดเลือดและฟื้นฟูการไหลเวียนโลหิตให้เป็นปกติ นอกจากนี้ ส้มยังมีโพแทสเซียม ซึ่งช่วยปรับการไหลเวียนโลหิตสู่หัวใจให้เป็นปกติและป้องกันการเกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ
นอกจากนี้ สารนี้ยังช่วยลดความดันโลหิต การบริโภคส้มเป็นประจำช่วยลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมอง หัวใจวาย และภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ
การมีส่วนร่วมในกระบวนการสร้างเม็ดเลือด
ส้มมีวิตามินบีหลายชนิด ซึ่งเกี่ยวข้องกับการสร้างเม็ดเลือด การรับประทานผลไม้เหล่านี้จะช่วยกระตุ้นการสังเคราะห์เม็ดเลือดแดง
ส้มยังมีธาตุเหล็ก ซึ่งช่วยรักษาระดับฮีโมโกลบินในเลือดให้อยู่ในระดับปกติ ช่วยเพิ่มออกซิเจนในเลือด
มีประโยชน์ต่อผิวหนังและเส้นผม
การรับประทานส้มมีประโยชน์ต่อผิวอย่างมาก ส้มอุดมไปด้วยวิตามินซี ซึ่งช่วยส่งเสริมการสังเคราะห์คอลลาเจนและช่วยปกป้องเยื่อบุผิวจากผลกระทบของรังสีอัลตราไวโอเลต

ผลิตภัณฑ์นี้ยังประกอบด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยป้องกันริ้วรอยแห่งวัย ด้วยเหตุนี้ สารสกัดจากส้มจึงเป็นที่นิยมในหมู่ผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม สารสกัดจากส้มช่วยต่อสู้กับสิว การอักเสบเป็นหนอง และความเสียหายอื่นๆ ของผิว
ส้มยังมีประโยชน์ต่อเส้นผมอีกด้วย ส้มนำมาทำมาส์กได้หลากหลายชนิด ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับเส้นผมและปรับสภาพหนังศีรษะ
ประโยชน์ต่อตับ
ตับเป็นอวัยวะสำคัญที่สะสมสารอันตรายมากมาย ในระยะแรกกระบวนการเหล่านี้จะไม่แสดงอาการ แต่ในภายหลังจะส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตอย่างมาก การรับประทานส้มช่วยล้างสารพิษออกจากตับและป้องกันความเสียหายของตับ
ใช้ในยาพื้นบ้าน
ผลไม้ชนิดนี้มีวิตามินมากมาย จึงมักถูกนำมาใช้เป็นยาสามัญประจำบ้าน สูตรที่ได้ผลดีที่สุด ได้แก่:
- การชงส้มสดหั่นเป็นชิ้น วิธีนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการลดไข้ วิธีทำคือนำส้มหั่นเป็นชิ้นๆ ราดน้ำอุ่นครึ่งแก้ว แช่ทิ้งไว้ครึ่งชั่วโมง รับประทานวันละหลายครั้ง ทุกสองชั่วโมง
- การชงชาจากเปลือกและเนื้อผลไม้ เครื่องดื่มนี้ช่วยบรรเทาอาการติดเชื้อไวรัส วิธีทำคือบดผลไม้พร้อมเปลือก แล้วผสมกับน้ำเดือด 500 มิลลิลิตร แช่ทิ้งไว้ครึ่งชั่วโมง จิบก่อนอาหารสักสองสามจิบ
- การชงเปลือกส้มและเมล็ดส้ม สารนี้ช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือนในสตรี วิธีทำคือผสมส่วนผสมกับน้ำเดือด แช่ทิ้งไว้ 40 นาที กรองเอาแต่น้ำ ดื่มวันละสามครั้ง
อันตรายและข้อห้าม
เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อสุขภาพที่ไม่พึงประสงค์ อย่าลืมรับประทานส้มในปริมาณที่พอเหมาะ การรับประทานผลไม้มากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการท้องเสีย แสบร้อนกลางอก และภาวะวิตามินเกินได้
ในบางสถานการณ์ อาจทำให้มีน้ำหนักเกินได้ด้วย

ก่อนรับประทานส้ม โปรดอ่านข้อห้ามใช้ ผลิตภัณฑ์นี้ห้ามรับประทานในผู้ที่เป็นโรคแผลในกระเพาะอาหาร โรคกระเพาะ หรือตับอ่อนอักเสบ โรคลำไส้เฉียบพลันก็รวมอยู่ในข้อห้ามใช้เช่นกัน
ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรระมัดระวังอย่างยิ่ง การบริโภคส้มในปริมาณปานกลางมีประโยชน์ อย่างไรก็ตาม ควรควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดขณะรับประทานผลไม้ชนิดนี้ ผู้ที่แพ้ผลไม้ตระกูลส้มควรหลีกเลี่ยงผลไม้ชนิดนี้
สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้คือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้รับการเติมสารเคมีเพื่อยืดอายุการเก็บรักษา ดังนั้น ขอแนะนำให้ล้างและปอกเปลือกส้มให้สะอาดก่อนรับประทาน
หากเปลือกผลไม้ที่ผ่านการแปรรูปเข้าสู่ร่างกาย อาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดพิษร้ายแรงและความผิดปกติของระบบย่อยอาหารได้
ส้มถือเป็นผลไม้ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างแท้จริง เนื่องจากมีส่วนประกอบที่มีคุณค่า การรับประทานส้มสามารถช่วยพัฒนาการทำงานของร่างกายและขจัดปัญหาต่างๆ มากมาย











